DAVF หรือเสียงในหู เสี่ยงอาการโรคทางสมอง

เสียงในหู

เสียงในหู สภาวะ DAVF หรือ ภาวการณ์ความไม่ดีเหมือนปกติของหลอดเลือดแดง กับโพรงหลอดโลหิตดำรอบๆ เยื่อหุ้มสมอง บางทีอาจมีผลต่อการระบายเลือดกลับของสมอง จะขึ้นอยู่กับตำแหน่งรวมทั้งความแตกต่างจากปกติของโพรงหลอดโลหิตดำ

สภาวะนี้ มีการแบ่งเป็น 2 ลักษณะตามการรบกวนการระบายเลือดกลับของสมอง ดังเช่นว่า จำพวกไม่ร้ายแรงแล้วก็ประเภทร้ายแรง ซึ่งจำพวกร้ายแรงจะเป็นประเภทที่ก่อกวนการระบายเลือดกลับของสมองโดยจะมีผลนำมาซึ่งการก่อให้เกิดสภาวะความดันในเส้นเลือดดำสมองสูงเนื่องจากว่าไม่อาจจะระบายเลือดไหลได้ ก็เลยกระตุ้นแล้วส่งผลให้มีการเกิดสภาวะสมองขาดเลือดและก็สภาวะเลือดไหลตามมาสุดท้าย

DAVF หรือเสียงในหู2

อาการที่พบได้

อาการแสดงของภาวการณ์ประเภทไม่ร้ายแรง จะเกิดขึ้นตามตำแหน่งของหลอดโลหิตดำที่ถูกก่อกวน อย่างเช่น

  • คนไข้มีสภาวะเสียงดังรบกวนในหูตามจังหวะชีพจร ซึ่งมีต้นเหตุที่เกิดจากการรบกวนโพรงหลอดโลหิตดำที่ฐานหัวกะโหลกรอบๆหู
  • อาการถัดมาที่พบได้มากเป็น เสียงฟู่ สัมผัสได้รอบๆต่างๆรอบหัว
  • เจอภาวการณ์น้ำคั่งในโพรงสมอง เป็นอีกหนึ่งสภาวะซึ่งสามารถเจอได้ เกิดขึ้นได้เนื่องมาจากการดูดกลับของน้ำหล่อเลี้ยงสมอง จำนวนมากจะต้องผ่านโพรงเส้นเลือดดำ

อาการสภาวะที่รุนแรง

  • ความจำเสื่อม
  • พฤติกรรมเปลี่ยนแปล
  • งเคลื่อนไหวผิดปกติ
  • แขนขาอ่อนแรง

สาเหตุที่ก่อให้เกิดสภาวะ DAEF หรือ เสียงในหู

ต้นเหตุการเกิดโรคมักกำเนิดตามหลังสภาวะโพรงหลอดโลหิตดำในสมองตัน เป็นภาวการณ์ที่พบได้ทั่วไปในคนป่วยผู้หญิง บางทีอาจกำเนิดตามหลังอุบัติเหตุทางศีรษะและก็ความแตกต่างจากปกติของการแข็งตัวของเลือด แต่ว่าบางครั้งบางคราวก็ไม่สามารถที่จะหามูลเหตุได้เด่นชัด

DAVF หรือเสียงในหู3

วินิจฉัยภาวะ DAEF

การวิเคราะห์คนป่วยทำเป็นโดยหมอส่งไปทำการตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์แบบฉีดสี หรือแม้อยากได้ข้อมูลที่ละเอียดมากขึ้นหมอบางทีอาจไตร่ตรองคนเจ็บส่งไปตรวจเอกซเรย์คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า

ดังนี้คนเจ็บควรจะได้รับการดูแลพื้นฐานจากหมอผู้ที่มีความชำนาญด้านระบบประสาทโดยตรง เพราะความสลับซับซ้อนของต้นสายปลายเหตุการเกิดโรค ก็เลยทำให้การคุ้มครองเป็นได้ยาก

อย่างไรก็แล้วแต่การดูแลและก็ตรวจร่างกายบ่อยๆรวมทั้งการดูแลและรักษาโรคประจำตัว ดังเช่นว่า ความดันสูง โรคเบาหวาน ไขมันในเลือดสูง และก็หลบหลีกการใช้ยาเสพติด ยาสูบ เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ สามารถช่วยลดการเสี่ยงการเกิดสภาวะโรคนี้ได้ ปัจจุบันนี้สถาบันประสาทวิทยามีการปรับปรุง การดูแลรักษาโดยวิธีการใช้รังสีร่วมรักษาและก็การดูแลและรักษาผ่านทางสายสวนเส้นโลหิต โดยไม่ต้องผ่าตัดเปิดสมองทำให้การพยาบาลผู้ป่วยมีคุณภาพแล้วก็ความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น