สุขภาพ และการดูแลตัวเอง เป็นของคู่กันอยู่แล้ว วันนี้เรามาทำความรู้จักกับ อาการ “แพ้เหงื่อตัวเอง” กันดีกว่าดูเหมือนว่า จะเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สร้างภาระให้กับร่างกายของคนเรา อย่างมากเลยทีเดียวที่ให้ความรู้สึกแบบแสบๆ รวมไปถึงอาการคันบริเวณที่เหงื่อออก ตามร่างกายที่เราไปเจอแดดที่ร้อนมากๆซึ่งตรงจุด ที่สร้างความหงุดหงิดไม่น้อย
ทั้งบริเวณ ตรงลำคอ ใบหน้า แขน ขา เป็นต้น จนเกิดอาการคันและถึงขั้นเป็นลมพิษขึ้น มีผื่นแดงผื่นคันมากขึ้น ตรงบริเวณดังกล่าวและจะเป็นไปได้ไหม หากเรากำลังจะเป็น โรคแพ้เหงื่อตัวเอง ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งโรค ที่กำลังคืบคลานและสร้างความรำคาญใจ ให้กับประชาชนชาวไทยไม่น้อย
สำหรับโรคแพ้เหงื่อตัวเอง
หลายคนมักจะสงสัยอยู่ในแน่ๆเลยว่า “โรคแพ้เหงื่อตัวเอง” นั้นแท้ที่จริงแล้ว เป็นอย่างไรตอบเลยว่ามีจริงๆ กับโรคดังกล่าวนั้นมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า โรคแพ้เหงื่อตัวเอง (Allergic Dermatitis) จัดได้ว่าเป็นอีกหนึ่งโรคภูมิแพ้ชนิดหนึ่ง
โดยอาการแพ้มักจะแสดงออก ในรูปแบบของผื่นคันแต่ต้องบอกก่อนเลยว่า โรคเหล่านี้ไม่ได้เกิดจากที่เหงื่อของเราเป็นพิษ เพราะบางทีอาจจะเกิดจากผิวหนังของเราเอง อาจจะเป็นโรคอื่นอยู่แล้วด้วยเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นทั้ง โรคสะเก็ดเงิน โรคเกลื้อน โรคผิวหนังอักเสบ หรือโรคผิวหนังชนิดอื่นๆ
วิธีสังเกต “โรคแพ้เหงื่อตัวเอง”
สำหรับวิธีในการสังเกต “โรคแพ้เหงื่อตัวเอง” ก็สามารถที่จะทำได้ง่ายๆ เลยทีเดียวเพื่อเป็นการป้องกันและดูเหมือนว่า จะเป็นแนวทางของสุขภาพของคุณ โดยเฉพาะ
- อาการแพ้เหงื่อ นั้นจะเกิดตรงบริเวณที่เหงื่อออกเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นทั้ง ข้อพับขาหนีบรอบดวงตา หรือ บริเวณใบหน้า เป็นต้น
- จะมีอาการคันเป็นอย่างมาก เมื่อเหงื่อออก โดยเฉพาะจุดที่เหงื่อออกมาเป็นพิเศษ
- เวลาเหงื่อออกทีไร มักจะตามมาด้วย ผื่นแดง หรือ ตุ่มใส อยู่เสมอ
- จะมีตุ่มหรือ ผื่นแพ้ บนผิวหนังเกิดขึ้นเป็นระยะเวลาหนึ่ง และสามารถที่จะหายไปเองได้
- จะมีสิวขึ้น บริเวณที่เหงื่อออก
ซึ่งเห็นได้อย่างชัดเจน สำหรับ 5 แบบที่บ่งบอกว่าคุณกำลังเกิดอาการ “โรคแพ้เหงื่อตัวเอง” ที่เป็นอีกหนึ่งสิ่ง ที่เป็นบทบาทที่น่าสนใจ และค่อนข้างมีความชัดเจนเป็นอย่างมาก ที่เป็นอีกหนึ่งจุดที่จะต้องดูแลเอาใจใส่ และสำรวจร่างกายของตนเอง เพื่อสุขภาพที่ดี สำหรับคุณโดยเฉพาะ
วิธีการรักษาอาการแพ้เหงื่อ
เพื่อสุขภาพที่ดี จะต้องมีแนวทางและวิธีการรักษา อาจจะลองพยายามทำตามคำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หรือ พยายามหลีกเลี่ยงการมีอยู่บริเวณผิวหนัง เป็นระยะเวลาหนึ่งหากมีเหงื่อ มากเกินไปจนรู้สึกผิดปกติ ให้รีบอาบน้ำทำความสะอาดร่างกาย หรือรวมไปถึงการทำให้ผิวหนัง มีความแห้งและไม่อับชื้น เป็นเวลานาน
อย่างไรก็ตามแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เฉพาะทางผิวหนังได้มีการแนะนำ เพิ่มเติมว่าการรักษาโรคแพ้เหงื่ออาจจะทำด้วย วิธีที่จะทำให้ร่างกายค่อยๆชินกับอาการแพ้ จนไม่มีปฏิกิริยาในการแพ้ที่รุนแรงและอาจจะลองฝึกให้ร่างกาย อยู่ภายใต้สภาพอากาศที่ร้อน หรือ การปรับอุณหภูมิ ที่ให้ค่อยรู้สึกอบอุ่นไปทีละนิดจนร่างกายไม่มีอาการแพ้ เกิดขึ้นอีกเลยจะเป็นอีกหนึ่งแนวทางการรักษาที่ดี