อาการไอ แบบไหนที่เราควรพบแพทย์ โดยด่วน!

อาการไอ

อาการไอ ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งต้นต่อหรือเริ่มต้นของอาการหวัด ซึ่งอาการจะดีขึ้นหรือไม่นั้นก็ล้วนแล้วแต่อยู่ที่สุขภาพร่างกายของคนเรา และหากมีอาการไอค่อนข้างหนักจนรบกวนการใช้ชีวิตก็จะสามารถที่จะหายาแก้ไอ มารับประทานได้แต่มีบางสิ่งบางอย่าง ที่อาจจะก่อให้เกิดสิ่งที่ผิดปกติได้

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อาการไอ ที่ผิดปกติแบบไหนกันแน่ที่ควรพบ กับการหาสาเหตุอย่างแท้จริงกับการเข้ารับการรักษา อย่างถูกต้องและถูกวิธีที่สุดอีกด้วย

สำหรับวันนี้เรา จึงจะมาดูกันดีกว่าว่าอาการไอหรือการเป็นหวัด แบบไหน ควรที่จะพบแพทย์โดยด่วนเพื่อหลีกเลี่ยง การเกิดปัญหาตามมาได้อย่างน่าสนใจ และการหลีกเลี่ยงกับความลงตัว ในส่วนที่ค่อนข้างมีความยอดเยี่ยม ต่อส่วนที่เรียกว่าตอบโจทย์ได้มากที่สุด เท่าที่จะมากได้อีกด้วย

ไอ2

อาการไอ

สำหรับประเทศที่เกิดอาการไอ แบบผิดปกติที่พบได้นั้นก็ดูเหมือนว่าจะเป็น สิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเลยทีเดียวโดยมีการระบุไว้ อย่างชัดเจนดังต่อไปนี้

  • ไอเฉียบพลัน (Acute Cough)
  • ไอกึ่งเฉียบพลัน (Subacute Cough)
  • ไอเรื้อรัง (Chronic Cough)

อีกครั้งอาการต่างๆ ควรที่จะพบแพทย์เป็นอย่างมาก โดยที่ 3 ประเภทดังต่อไปนี้นั้นเป็นอะไรที่เรียกได้ว่าต้องดูแลเอาใจใส่ อย่างใกล้ชิดอย่างมากเลยทีเดียวต่อส่วนที่ค่อนข้าง มีความสำคัญต่อความน่าสนใจและความจำเป็น ต่อการพบเจอและการรักษาโดยรวดเร็วที่สุด และด่วนที่สุดเท่าที่จะมากได้

ไอ3

อาการที่พบได้และควรพบแพทย์

อย่างไรก็ตาม อ. นพ.ธิติวัฒน์ ศรีประสารน์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ก็ได้ออกมาเปิดเผยและออกมาชี้แนะ และรวมไปถึงแนะนำอาการที่ควรที่จะพบแพทย์ โดยด่วนที่สุดหลังจากที่มีอาการไอเรื้อรัง จนทำให้เกิดผลข้างเคียงอย่างอาการไอเป็นเลือด หรือ ไอ แล้วมีเสมหะปนเลือดออกมา

หรือรวมไปถึงมีอาการเสียงแหบ มีไข้และรวมไปถึงน้ำหนักลดมีอาการหอบเหนื่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งขณะที่พัก และมีประวัติป่วยและเป็นโรคปอดอักเสบอยู่บ่อยๆ รวมไปถึงการกลืนน้ำลำบากหรือกลืนสิ่งของบางสิ่ง บางอย่าง ที่เป็นอาหารแล้วเกิดอาการรู้สึกเจ็บ หรือรวมไปถึงมีอาการสำลักออกมาด้วยเช่นเดียวกันที่ อาจจะก่อให้เกิดปัญหาได้

คำแนะนำจากแพทย์

สำหรับคำแนะนำจากแพทย์นั้นก็คือ ผู้ป่วยที่มีอาการไออย่างต่อเนื่องตั้งแต่ 3 สัปดาห์เป็นต้นไปแล้วนั้นร่วมกับอาการอื่นๆแทรกซ้อนเข้ามาด้วย หรือ รวมไปถึงอาการแทรกซ้อนที่ควรพบได้เพื่อที่จะถามประวัติของผู้ป่วย และรวมไปถึงการตรวจร่างกายอย่างถี่ถ้วน และเอกซเรย์ปอดเพื่อวินิจฉัย การรักษาอย่างถูกต้อง และถูกวิธีอย่างมากที่สุดเท่าที่จะมากได้