ฉีดวัคซีนโควิด19 ไม่ว่าจะยี่ห้อไหนก็ตาม เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างเลี่ยงไม่ได้ในยุคสมัยนี้ เนื่องด้วยการแพร่ระบาดของโรคโควิด19 ยังคงกลายพันธ์ุ ทำให้การควบคุมการระบาดยังคงช้า และทุกคน ควรจะช่วยกันที่จะฉีดวัคซีน แต่ก่อนที่จะตัดสินใจไปฉีดวัคซีนนั้น ทุกคนต้องเข้าใจในตัววัคซีน และสุขภาพของคุณด้วย
หลังจากมีวัคซีนโควิด-19 ก็ดูเหมือนว่าชีวิตของคนเรา เริ่มที่จะปรับเปลี่ยนกันไปและมีให้เลือกมากมายหลากหลายรูปแบบ แต่สิ่งหนึ่งที่อยากจะย้ำเตือน หรือสร้างภูมิคุ้มกันจากสิ่งต่างๆเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงจะเป็นอย่างที่ต้องมีการทำที่ควบคู่กันไปแล้ว จะเป็นทั้งล้างมือบ่อยๆหรือรวมไปถึงการสวมหน้ากากอนามัย และหลีกเลี่ยงพื้นที่เสี่ยง
ถึงแม้ว่าจะได้รับวัคซีนมาแล้วก็ตาม ก็ยังสามารถจะมีโอกาสในการติดเชื้อได้ด้วยเช่นเดียวกัน สิ่งที่จะต้องเตรียมการหรือเตรียม ความพร้อมมากที่สุดก่อน ที่จะเริ่มต้นในการรับวัคซีนนั้นดูเหมือนว่า จะเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เป็นคำถามที่ว่า ควรจะทำอย่างไรก่อนที่ได้รับการรักษา
โรคประจำตัวกับการเตรียมความพร้อมในการฉีด
1.โรคมะเร็ง : สามารถที่จะฉีดได้ยกเว้น แต่ผู้ที่กำลังได้รับยาเคมีบำบัด หรือผู้ที่กำลังรับการผ่าตัดโรคมะเร็งอยู่ควรที่จะศึกษา และปรึกษาแพทย์ก่อนฉีดหรือรวมไปถึงคนไข้ ที่เป็นโรคมะเร็งเกี่ยวกับระบบเลือดที่ได้รับการปลูกถ่ายไขกระดูก ควรฉีดวัคซีนหลังจากรักษาครบแล้ว 3 เดือนขึ้นไป
2.โรคเบาหวานหรือโรคอ้วน : สามารถที่จะฉีดได้เลยแต่ยกเว้น สำหรับคนที่เพิ่งจะมีอาการหรืออาการของโรคที่ยังไม่คงที่ และรวมไปถึงก่อนที่จะทำการฉีด แพทย์ควรที่จะตรวจสอบก่อน
3.โรคหัวใจและหลอดเลือด : สามารถที่จะฉีดได้ยกเว้น แต่พึ่งจะมีอาการหรืออาการของโรคหัวใจยังไม่คงที่และรวมไปถึง มีอาการอื่นๆที่อาจจะก่อให้เกิดอันตรายได้ ซึ่งแพทย์ประจำตัวพิจารณาแล้ว ยังไม่ควรที่จะฉีดวัคซีนก็ไม่สามารถทำได้
4.โรคปอด โรคหอบหืด : สามารถที่จะฉีดได้ยกเว้น แต่พึ่งจะมีอาการหรืออาการของโรคที่ยังคงไม่มีความคงที่แนะนำว่า ควรที่จะนอนหลังหายจากอาการซัก 2-4 สัปดาห์ก่อน
ยารักษาที่ควรระวัง
สำหรับยารักษา ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ต้องดูแล้วต้องเฝ้าระวัง ก่อนที่จะรับการฉีดด้วย เช่นเดียวกันไม่เช่นนั้นอาจจะมีผลกระทบได้
1.ยาสเตียรอยด์ หากมีขนาดน้อยกว่า 20 มิลลิกรัมต่อวัน หรือ สเตียรอยด์อื่นที่เทียบเท่ากับสามารถฉีดได้โดยที่ไม่ต้องหยุดยา แต่ถ้าหากมีการบริโภคมากกว่า 20 มิลลิกรัมต่อวัน อยู่ในช่วงเวลาของปริมาณยาลงผู้ป่วย ต้องมีอาการคงที่ก่อนจึงจะสามารถที่จะฉีดวัคซีนได้
2.ยากดภูมิคุ้มกัน สำหรับยาชนิดนี้ สามารถที่จะฉีดได้เลย หากมีอาการคงที่หรือโดยไม่ต้องหยุดยา
3.ยาต้านการแข็งตัวของเลือด สามารถที่จะฉีดได้ สำหรับผู้ป่วยที่มีค่า INR ที่น้อยกว่า 4 โดยเข็มขนาด 25 – 27 G แล้วไม่คลึงกล้ามเนื้อหลังฉีดวัคซีนเสร็จหลังฉีด เสร็จควรที่จะกดตรงที่ฉีด อย่างน้อย 2 ถึง 5 นาทีจนกว่าจะเกิดความแน่ใจ
3.ยาต้านเกร็ดเลือด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Aspirin, Clopidogrel, Colostazol, Ticagrelor หรือ prasugrel สามารถที่จะฉีดได้ โดยใช้เข็มขนาด 25G หรือเล็กกว่าและไม่คลึงกล้ามเนื้อหลังจากฉีดหรือหลังฉี่เสร็จแล้ว ควรที่จะกดตรงที่ฉีดอย่างน้อย 2 ถึง 5 นาที