ทำความรู้จักและเข้าใจกับสภาวะ “สมองล้า” อาการเป็นอย่างไร มีผลกระทบต่อสุขภาพมากแค่ไหน?

สุขภาพรวมไปถึงการดูแลตนเอง ที่มีความเกี่ยวกับเชื่อมโยงในร่างกาย ทั้งเรื่องของสมองร่างกายจิตใจและอื่นๆอีกมากมาย ล้วนแล้วแต่ผสมผสานกันในทุกส่วนได้ อย่างน่าสนใจ และค่อนข้างมีความชัดเจนในองค์ประกอบ โดยรวมที่ค่อนข้างมีความน่าสนใจ และความและเยี่ยมที่ดี ซึ่งสำหรับวันนี้เรามาทำความรู้จัก กับเข้าใจในสภาวะ “สมองล้า” กันดีกว่าซึ่งถือว่าเป็นอาการที่มีผลกระทบ ต่อสุขภาพอย่างแท้จริง คุณไม่รีบจัดการตัวเองให้ดีพอ 

สำหรับสภาวะดังกล่าวนั้น ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสภาวะที่มีงานวิจัย ออกมาเปิดเผยและมองอย่างชัดเจนว่าเกิดจากสมองทำงานหนัก จนมากเกินไป และอาการที่พบบ่อยเลยก็คือ ความรู้สึกปวดหัว คิดช้า ทำช้า มึนงง รู้สึกหัวสมองตื้อ จำเรื่องราวหรือ สิ่งที่พึ่งทำไปไม่ได้เลย อีกทั้งอาจจะมีโอกาสเป็นจุดเริ่มต้นของสภาวะสมองเสื่อม ก่อนวัยอันควรได้ด้วย 

สภาวะ สมองล้า 2

อาการสมองล้าเกิดจากอะไร?

สำหรับ อาการ “สมองล้า” หรือ Brain Fog ถือได้ว่าเป็นอาการใหม่ของคนรุ่นใหม่ ที่น้อยคนจะรู้จักอย่างแท้จริง ซึ่งเรียกได้ว่ามีผลทั้งสมอง สภาพจิตใจที่ส่งผลต่อการทำงานหนัก อย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นทั้ง การพักผ่อนน้อย หรือพักผ่อนไม่เพียงพอ หรือขาดการดูแลทางด้านโภชนาการที่ดี

อีกทั้งยังมีการสะสมของสารพิษ ชนิดโลหะหนัก หรือ สารพิษ เช่น ยาฆ่าแมลง ที่ปนเปื้อนมากับอาหาร ทั้งยังอาจจะก่อให้เกิดสภาวะความเครียด สะสมอนุมูลอิสระในร่างกาย มีผลกระทบและรวมไปถึงการขาดการออกกำลังกาย มีความสมดุลในฮอร์โมนต่างๆ ที่ผิดปกติหรือสภาวะขาดน้ำ หรือ น้ำที่ดื่มไม่เพียงพออีกด้วย

สิ่งต่างๆเหล่านี้ล้วนแล้ว แต่เป็นสิ่งที่ส่งผลให้การทำงานของร่างกาย เกิดสภาวะที่ถดถอยลงไปและรวมไปถึงต่อมหมวกไต มีการทำงานหนักมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นสื่อประสาทที่เริ่มมีการแปรปรวน อีกทั้งการไหลเวียนของเลือดไป เลี้ยงสมองก็เริ่มที่จะลดลง จึงทำให้เกิดอาการรู้สึกหัวตื้อ มีความมึนงงเกิดอาการปวดหัวคิดช้าและรวมไปถึง จำเรื่องราวของสิ่งที่ พึ่งทำลงไปไม่ได้ และเกิดอาการเหนื่อยล้า ทั้งทางด้านจิตใจ และมีอารมณ์แปรปรวนได้

สภาวะ สมองล้า 3

ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและลดความเสี่ยง

สิ่งหนึ่งที่อยากจะแนะนำเป็นอย่างมากเลย ก็คือควรที่จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และลดความเสี่ยงที่อาจจะก่อให้เกิดขึ้นไม่ว่า จะเป็นทางการจัดลำดับความสำคัญทั้ง ทางด้านการงานให้ดีและการบริหารเวลาไม่ให้วุ่นวายหรือยุ่ง จนเกินไปอีกทั้งควรที่จะหยุดเล่นโทรศัพท์ สักพักหรือหยุดเสพติดข่าวหรือสื่อบางสิ่ง บางอย่าง ที่ทำให้เครียดในช่วงเวลาการทำงาน

สำหรับการมองโลกในแง่บวก ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ควรค่า แก่การทำเป็นอย่างยิ่งหรือออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ครั้งละไม่ต่ำกว่า 30 นาที 3 ถึง 5 ครั้งต่อสัปดาห์ก็เป็นอะไรที่ดีและควรหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ และบุหรี่ ในช่วงที่มีความเครียด เพราะยิ่งจะทำให้เกิดสภาวะสมองล้าได้ 

ดังนั้นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม จะเป็นสิ่งที่ดีอย่างแน่นอน ส่วนในแนวทางของการรักษาในปัจจุบันนี้มีอาหารเสริมต่างๆมากมาย ในการช่วยบำรุงสมองไม่ว่าจะเป็นทั้ง น้ำมันปลา หรือ รวมถึงสารสกัดจมูกข้าว และวิตามินบีรวม ซึ่งเป็นส่วนที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของสมอง และประสาทได้เป็นอย่างดีอีกทั้ง ยังมีการกระตุ้นการย่อยอาหาร และดูดซึมอาหาร ที่ทำให้สมองได้รับพลังงาน จากสารอาหารได้อย่างเต็มที่ที่จะช่วยบรรเทาอาการได้ เป็นอย่างดี หรือ ถ้าเกิดสภาวะนี้ถึงขั้นรุนแรง ควรที่จะพักผ่อนและควรที่จะหยุดกิจกรรมต่างๆ ในทันที