ปวดส้นเท้า หรือโรครองบอบช้ำ มักเกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากกระบวนการทำกิจกรรมที่จะต้องลงน้ำหนักรอบๆเอ็นอุ้งเท้าเสมอๆ อย่างเช่น การวิ่ง การเดิน หรือการยืนเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน ทำให้คนไข้มีลักษณะอาการบวม และก็อักเสบที่รอบๆฝ่าเท้า
บางทีอาจเกิดขึ้นได้กับเท้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือเกิดขึ้นได้กับเท้าอีกทั้ง 2 ข้าง โดยธรรมดาแล้วถ้าหากได้พักเท้าจากการใช้แรงงานก็อาจส่งผลให้อาการดียิ่งขึ้นได้
อาการ ปวดส้นเท้า
ผู้เจ็บป่วยจะมีลักษณะปวด ตึง เจ็บแปลบ หรือเจ็บเสมือนมีดแทง มักเป็นที่รอบๆส้น ซึ่งเป็นจุดลงน้ำหนักและก็เป็นส่วนที่บางที่สุดของเอ็นอุ้งเท้าหรือพังผืดใต้ฝ่าเท้า (Plantar Fascia) หรือบางบุคคลบางทีอาจรู้สึกเจ็บปวดที่รอบๆกึ่งกลางฝ่าตีน
โดยธรรมดาแล้ว ลักษณะของการปวดจะเกิดขึ้นที่ส้นตีนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่ว่าก็บางทีอาจเกิดขึ้นกับส้นตีนอีกทั้ง 2 ข้างได้เช่นเดียวกัน ผู้เจ็บป่วยมักมีลักษณะอาการปวดส้นตีนมากเพิ่มขึ้นภายหลังตื่นในตอนเวลาเช้า หรือภายหลังจากนั่งหรือยืนเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน
และก็บางทีอาจไม่เจอลักษณะของการปวดในระหว่างวิธีการทำกิจกรรมต่างๆรวมทั้งการบริหารร่างกาย แม้กระนั้นพบได้มากว่ามีลักษณะอาการเยอะขึ้นเรื่อยๆหลังจบการทำกิจกรรม
สาเหตุ
ปกติแล้ว “เอ็นฝ่าเท้า” จะมีหน้าที่ในการรองรับความโคร้งงอของเท้า ถ้ามีการยืดเยอะเกินไปหรือฉีกให้ขาดบ่อยๆอาจส่งผลให้บวมหรืออักเสบได้ ในขณะนี้ยังไม่อาจจะบอกได้อย่างแน่ชัดว่าสิ่งที่ทำให้เกิดลักษณะของการปวดส้นตีนมีสาเหตุจากอะไร แต่ว่ามีหลายสาเหตุที่เพิ่มการเสี่ยงและก็นำมาซึ่งลักษณะของการปวดส้นเท้า ตัวอย่างเช่น อายุ การออกกำลังกายบางชนิด โครงสร้างของเท้า โรคอ้วน
การวินิจฉัย
การวิเคราะห์ โดยหมอนั้นมักเริ่มจากการซักถามอาการเพื่อหาสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงและก็ตรวจสุขภาพ โดยหมอบางทีอาจกดที่ส้นตีนในขณะคนป่วยเหยียดเท้า เพื่อตรวจสอบว่ามีลักษณะปวดหรือตึงที่ตำแหน่งใด แล้วก็ประเมินความแข็งแรงของกล้ามและก็สุขภาพของเส้นประสาท บางรายบางทีอาจจำต้องเอกซเรย์
หรือตรวจอันอื่นร่วมด้วยเพื่อตรวจทานว่าลักษณะของการปวดส้นเท้ามิได้เกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากปัญหาอื่นๆได้แก่ กระดูกหัก เส้นประสาทถูกกด ฯลฯ
ภาวะแทรกซ้อน
ลักษณะของการปวดส้นที่ไม่ได้รักษาบางทีอาจก่อให้เกิดลักษณะของการปวดส้นเท้าจำพวกเรื้อรัง ซึ่งจะมีผลต่อหลักการทำงานของอวัยวะส่วนอื่นๆดังเช่นว่า ขา เข่า บั้นท้าย และก็ข้างหลัง รวมทั้งการดูแลรักษาด้วยยาสเตียรอยด์อาจก่อให้เอ็นอุ้งเท้าอ่อนตัวหรือเป็นต้นเหตุทำให้เอ็นฝ่าเท้าฉีกให้ขาดได้ ทั้งการดูแลรักษาด้วยการผ่าตัดบางทีอาจมีความเสี่ยงต่อการได้รับเชื้อ หรือทำให้เส้นประสาทของเท้าเสียหายได้