หลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพอง โดยเฉพาะหลอดเลือดแดงใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อหลอดเลือดแดงใหญ่ ซึ่งเป็นหลอดเลือดแดงที่ใหญ่ที่สุดในร่างกาย ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพอย่างมากหากไม่ได้รับการรักษา ภาวะหลอดเลือดโป่งพองเกิดขึ้นเมื่อหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพองบางส่วนอ่อนตัวลงและโป่งออกด้านนอก ทำให้เพิ่มความเสี่ยงต่อการแตก ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
การผ่าตัดแก้ไขหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพองมีเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่พัฒนาไปมาก เพื่อให้การรักษามีประสิทธิภาพและลดความเสี่ยงแก่ผู้ป่วย โชคดีที่ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทางการแพทย์ได้พัฒนาทางเลือกในการผ่าตัดซ่อมแซมอย่างมาก ทำให้ขั้นตอนการรักษามีความปลอดภัยมากขึ้นและการฟื้นตัวเร็วขึ้น
โรคหลอดเลือดแดงโป่งพองคืออะไร?
ภาวะหลอดเลือดแดงโป่งพอง (aortic aneurysm) คือภาวะที่หลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพอง ซึ่งเกิดจากการที่ผนังหลอดเลือดแดงอ่อนแอลง ภาวะนี้สามารถเกิดขึ้นได้ในหลายส่วนของหลอดเลือดแดงใหญ่:
หลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพองบริเวณทรวงอก (TAA):พบในบริเวณหน้าอก
หลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพองบริเวณช่องท้อง (AAA):พบในช่องท้อง พบได้บ่อยกว่า TAA
ปัจจัยเสี่ยง ได้แก่ ความดันโลหิตสูง การสูบบุหรี่ โรคทางพันธุกรรม และหลอดเลือดแดงแข็ง หลอดเลือดโป่งพองส่วนใหญ่มักเติบโตช้าและอาจไม่แสดงอาการจนกว่าจะมีขนาดใหญ่หรือแตก ดังนั้นการตรวจพบแต่เนิ่นๆ จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง
การซ่อมแซมด้วยการผ่าตัดแบบดั้งเดิม
ในอดีตการผ่าตัดซ่อมแซมแบบเปิดเป็นวิธีการรักษาหลักสำหรับโรคหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพองอย่างรุนแรง ขั้นตอนการรักษาประกอบด้วย:
การทำการกรีดขนาดใหญ่เพื่อเข้าถึงหลอดเลือดใหญ่
การหนีบส่วนที่ได้รับผลกระทบของหลอดเลือดแดง
การเอาส่วนที่อ่อนแอออกและแทนที่ด้วยกราฟต์สังเคราะห์
แม้ว่าการผ่าตัดแบบเปิดจะมีประสิทธิภาพ แต่ก็มีความเสี่ยง เช่น เวลาในการพักฟื้นที่นานกว่า ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น และความเจ็บปวดหลังการผ่าตัดที่มากขึ้น
การซ่อมแซมหลอดเลือดโป่งพอง (EVAR): ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี
หนึ่งในความก้าวหน้าที่สำคัญที่สุดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาคือการซ่อมแซมหลอดเลือดโป่งพองด้วยวิธี endovascular (EVAR)ซึ่งเป็นเทคนิคการผ่าตัดแบบแผลเล็ก EVAR ใช้เทคโนโลยีการถ่ายภาพขั้นสูงและสายสวนเพื่อซ่อมแซมหลอดเลือดโป่งพองจากภายในหลอดเลือด
เทคโนโลยีเฉพาะทางขั้นสูง :
FEVAR (Fenestrated EVAR): ใช้ Stent Graft ที่มีช่องเปิด (Fenestration) ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ เพื่อให้เลือดไหลผ่านไปยังหลอดเลือดแดงที่ไปเลี้ยงอวัยวะสำคัญ เช่น ไต หรือลำไส้ได้ ในกรณีที่บริเวณที่โป่งพองอยู่ใกล้กับหลอดเลือดเหล่านี้
BEVAR (Branched EVAR): ใช้ Stent Graft ที่มีกิ่งแขนง (Branch) เพื่อให้เลือดไหลไปยังหลอดเลือดที่สำคัญอื่น ๆ ได้อย่างเหมาะสม
PMEG (Physician-Modified Endograft): เป็นเทคนิคที่แพทย์ปรับแต่งหลอดเลือดเทียมให้เข้ากับลักษณะทางกายวิภาคที่ซับซ้อนของผู้ป่วยแต่ละราย
EVAR ทำงานอย่างไร:
ทำการกรีดแผลเล็กๆ ที่บริเวณขาหนีบเพื่อเข้าถึงหลอดเลือดแดงต้นขา
การนำสเตนต์กราฟต์ไปยังบริเวณหลอดเลือดโป่งพองโดยใช้การถ่ายภาพแบบเรียลไทม์
สเตนต์กราฟต์ช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับหลอดเลือดแดงที่อ่อนแอ ป้องกันการแตก
ข้อดีของ EVAR:
แผลผ่าตัดเล็กและรอยแผลเป็นน้อย
พักรักษาตัวในโรงพยาบาลสั้นลงและฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
ความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงน้อยกว่าเมื่อเทียบกับการผ่าตัดแบบเปิด
สามารถทำได้ในผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูงต่อการผ่าตัดแบบดั้งเดิม
นวัตกรรมเทคโนโลยีที่เพิ่มประสิทธิภาพ EVAR:
การถ่ายภาพสามมิติและการตรวจหลอดเลือดด้วย CTช่วยให้วัดและวางแผนได้อย่างแม่นยำ
วัสดุสเตนต์กราฟต์ขั้นสูง:มีความยืดหยุ่นและทนทาน ลดความเสี่ยงในระยะยาว
ระบบหุ่นยนต์และระบบนำทาง:เพิ่มความแม่นยำในการวางกราฟต์
การฟื้นฟูและการดูแลหลังการผ่าตัด
โดยทั่วไปแล้วการฟื้นตัวจาก EVAR จะเร็วกว่าการผ่าตัดแบบเปิด โดยผู้ป่วยหลายรายสามารถกลับบ้านได้ภายใน 2-3 วัน อย่างไรก็ตาม การตรวจติดตามผลทางรังสีวิทยาเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการติดตามการใส่ขดลวดสเตนต์และตรวจหาภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น เช่น การรั่วไหล การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต เช่น การควบคุมความดันโลหิต การเลิกสูบบุหรี่ และการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ
เทคโนโลยีทางการแพทย์สมัยใหม่ได้พลิกโฉมการรักษาโรคหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพอง มอบทางเลือกที่ปลอดภัยและลดการรุกรานของหลอดเลือดให้ผู้ป่วย ตั้งแต่การผ่าตัดแบบเปิดแบบดั้งเดิมไปจนถึงการซ่อมแซมหลอดเลือดด้วยเทคนิค endovascular ที่ทันสมัย ความก้าวหน้าเหล่านี้ช่วยปรับปรุงผลลัพธ์และคุณภาพชีวิตได้อย่างมีนัยสำคัญ การวินิจฉัยโรคแต่เนิ่นๆ และการแทรกแซงอย่างทันท่วงทียังคงมีความสำคัญอย่างยิ่งยวด โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการตรวจสุขภาพประจำปีสำหรับกลุ่มเสี่ยง