เครื่องสแกน CAT ผสมผสานเทคโนโลยีเอกซเรย์เข้ากับการประมวลผลด้วยคอมพิวเตอร์เพื่อสร้างภาพตัดขวางของร่างกายโดยละเอียด เครื่องสแกน CT แบบดั้งเดิมทำงานโดยหมุนลำแสงเอกซเรย์ไปรอบๆ ร่างกายของผู้ป่วย จับภาพหลายภาพจากมุมต่างๆ แล้วสร้างภาพใหม่เป็นภาพ 3 มิติ เครื่องสแกน CT ความเร็วสูงเป็นเทคโนโลยีขั้นสูงที่สามารถสร้างภาพเหล่านี้ได้เร็วกว่ารุ่นเก่าอย่างเห็นได้ชัด
เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ความเร็วสูงในเทคโนโลยีทางการแพทย์มีการพัฒนาไปอย่างมาก โดยมีเทคโนโลยีที่สำคัญดังนี้:
1. เทคโนโลยี Dual-Source CT:
หลักการ: ใช้หลอดเอกซเรย์ 2 ชุด และตัวตรวจวัด 2 ชุดทำงานพร้อมกัน ทำให้สามารถเก็บข้อมูลได้เร็วขึ้นมาก ลดระยะเวลาในการสแกนลงอย่างมาก
ข้อดี:
ความเร็วสูงมาก: สามารถสแกนอวัยวะที่เคลื่อนไหวเร็ว เช่น หัวใจ ได้ภายในเวลาเพียง 1 ใน 4 ของจังหวะการเต้นหัวใจ ทำให้ได้ภาพที่คมชัด ลดปัญหาภาพเบลอจากการเคลื่อนไหว
ลดปริมาณรังสี: เนื่องจากใช้เวลาน้อยลงในการสแกน ทำให้ผู้ป่วยได้รับรังสีน้อยลง
การใช้งานที่หลากหลาย: เหมาะสำหรับการตรวจวินิจฉัยโรคหัวใจและหลอดเลือด ภาวะฉุกเฉิน และผู้ป่วยที่ไม่สามารถกลั้นหายใจได้นาน
2. เทคโนโลยี Wide-Detector CT:
หลักการ: ใช้ตัวตรวจวัดที่มีความกว้างมากขึ้น ทำให้สามารถครอบคลุมพื้นที่การสแกนได้มากขึ้นในการหมุนแต่ละครั้ง
ข้อดี:
สแกนครอบคลุม: สามารถสแกนอวัยวะขนาดใหญ่ได้ในการหมุนครั้งเดียว ลดจำนวนรอบการหมุนและเวลาในการสแกนโดยรวม
ภาพ 3 มิติที่มีคุณภาพ: ได้ภาพ 3 มิติที่ครอบคลุมและมีรายละเอียดมากขึ้น
ลดปริมาณรังสี: ลดความจำเป็นในการสแกนซ้ำในบริเวณเดิม
3. เทคโนโลยี Iterative Reconstruction:
หลักการ: เป็นเทคนิคการประมวลผลภาพขั้นสูงที่ช่วยลดสัญญาณรบกวน (noise) ในภาพ CT ทำให้สามารถลดปริมาณรังสีที่ใช้ในการสแกนได้โดยยังคงคุณภาพของภาพไว้
ข้อดี:
ลดปริมาณรังสี: เป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้ป่วยที่ต้องเข้ารับการตรวจ CT หลายครั้ง โดยเฉพาะเด็ก
ปรับปรุงคุณภาพภาพ: ได้ภาพที่มีความคมชัดและมีรายละเอียดมากขึ้น แม้จะใช้ปริมาณรังสีต่ำ
4. เทคโนโลยี Spectral CT (Dual-Energy CT):
หลักการ: ใช้พลังงานเอกซเรย์ 2 ระดับที่แตกต่างกันในการสแกน ทำให้ได้ข้อมูลเกี่ยวกับองค์ประกอบของเนื้อเยื่อและสารต่างๆ ในร่างกาย
ข้อดี:
ข้อมูลเชิงปริมาณ: สามารถระบุและวัดปริมาณของสารต่างๆ เช่น ไอโอดีน แคลเซียม กรดยูริก ในเนื้อเยื่อได้
การวินิจฉัยที่แม่นยำยิ่งขึ้น: ช่วยในการแยกแยะความแตกต่างของเนื้อเยื่อที่คล้ายคลึงกัน และวินิจฉัยโรคได้อย่างแม่นยำมากขึ้น เช่น โรคเกาต์ นิ่วในไต การอุดตันของหลอดเลือด
การใช้งานที่หลากหลาย: มีประโยชน์ในการตรวจวินิจฉัยโรคในหลายระบบของร่างกาย
5. เทคโนโลยี Photon-Counting CT:
หลักการ: เป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่ตัวตรวจวัดสามารถ “นับ” จำนวนโฟตอนของรังสีเอกซ์แต่ละอนุภาคและวัดพลังงานของแต่ละโฟตอนได้โดยตรง
ข้อดีที่คาดการณ์:
ประสิทธิภาพในการใช้รังสีสูง: คาดว่าจะสามารถลดปริมาณรังสีลงได้อีกมาก
ความละเอียดของภาพสูงขึ้น: อาจให้ภาพที่มีความคมชัดและมีรายละเอียดมากยิ่งขึ้น
ข้อมูลเชิงสเปกตรัมที่ดีขึ้น: สามารถแยกแยะองค์ประกอบของเนื้อเยื่อได้ดียิ่งขึ้น
สถานะปัจจุบัน: ยังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาและเริ่มมีการนำมาใช้ในบางสถานพยาบาล
นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาเทคโนโลยีอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น:
ระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI): ช่วยในการปรับปรุงคุณภาพภาพ ลดระยะเวลาในการสแกน และช่วยในการวิเคราะห์ภาพ
Gantry Design ที่กะทัดรัดและเปิดโล่งมากขึ้น: เพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ป่วย ลดความรู้สึกอึดอัด
Software ที่ใช้งานง่ายและมีประสิทธิภาพ: ช่วยให้แพทย์และนักรังสีเทคนิคสามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ
เทคโนโลยีเหล่านี้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การตรวจวินิจฉัยด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์มีความรวดเร็ว แม่นยำ ปลอดภัย และสะดวกสบายสำหรับผู้ป่วยมากยิ่งขึ้น