Buckwheat หรือบักวีต เป็นเมล็ดพืชยอดนิยมในหมู่คนรักสุขภาพ เพราะว่าประกอบไปด้วยแร่และก็สารต้านอนุมูลอิสระหลากประเภท ผู้คนจำนวนมากก็เลยมั่นใจว่าการกินบักวีตอาจเป็นผลดีต่อร่างกายหลายด้าน ดังเช่น ช่วยลดปริมาณน้ำตาลซึ่งอยู่ภายในเลือด ลดระดับคอเลสเตอรอล ลดระดับความดันเลือด หรือลดการเสี่ยงสำหรับในการกำเนิดโรคมะเร็งลำไส้ ฯลฯ
ถึงแม้ Buckwheat เป็นเมล็ดพืชประเภทหนึ่งที่ไม่มีความแตกต่างจากข้าวสาลีหรือข้าวโพด แต่ว่าในความเป็นจริงแล้วเมล็ดพืชจำพวกนี้ไม่ใช่เมล็ดพืช แต่ทว่าลูกค้าสามารถเอามากินได้ในแบบเดียวกันกับเมล็ดพืชทั่วๆไป ทำให้ Buckwheat ถูกจัดอยู่ในเครือญาติเมล็ดพืชเทียม (Pseudocereals) เหมือนกันกับควินัวหรือเม็ดผักโขม
ข้อมูลทางโภชนาการ
คาร์โบไฮเดรต บักวีต มีคาร์โบไฮเดรตเป็นส่วนประกอบหลักเหมือนกันกับเมล็ดพืชหรือเมล็ดพืชเทียมจำพวกอื่นๆโดยบักวีตดิบ 100 กรัม จะมีคาร์โบไฮเดรตถึง 71.5 กรัม ซึ่งในขณะนี้มีงานศึกษาทำการค้นคว้าและวิจัยที่ศึกษาค้นพบว่าสารประกอบบางจำพวกในบักวีตอาจมีคุณลักษณะช่วยลดปริมาณของน้ำตาลซึ่งอยู่ภายในเลือดรวมทั้งบางทีอาจช่วยควบคุมสภาวะโรคเบาหวานไม่ให้ร้ายแรงขึ้นได้ แต่งานวิจัยที่เรียนในด้านนี้ยังมีจำกัด ก็เลยควรต้องรองานวิจัยเสริมเติมในอนาคตถัดไป
ใยอาหาร บักวีตเป็นเมล็ดพืชที่มีใยอาหารออกจะสูง ซึ่งดีต่อร่างกายไส้และก็ช่วยทำให้ระบบขับถ่ายดำเนินการได้อย่างมีคุณภาพ โดยบักวีตดิบ 100 กรัม จะมีใยอาหาร 10 กรัม
แร่ธาตุ บักวีต จัดเป็นแหล่งรวมธาตุนานาจำพวก อีกทั้งทองแดง แมงกานีส เหล็ก แมกนีเซียม แล้วก็ธาตุฟอสฟอรัส ซึ่งช่วยทำให้ระบบต่างๆภายในร่างกายดำเนินการได้อย่างมีคุณภาพ โดยมีงานค้นคว้าวิจัยพบว่าเมล็ดพืชประเภทนี้มีจำนวนแร่สูงขึ้นมากยิ่งกว่าเมล็ดพืชทั่วๆไป รวมทั้งร่างกายสามารถซับแร่จากบักวีตที่ผ่านการปรุงสุกแล้วได้ง่ายรวมทั้งรวดเร็วทันใจกว่า เนื่องจากว่าบักวีตมีจำนวนกรดไฟติเตียนกที่เป็นสารยั้งการดูดซึมธาตุซึ่งเจอในเมล็ดพืชในระดับที่ถือว่าต่ำกว่าเมล็ดพืชประเภทอื่นๆด้วย
สารต้านอนุมูลอิสระ บักวีตอุสูดดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระหลากหลายประเภทที่บางทีอาจช่วยคุ้มครองหรือยั้งความเสื่อมโทรมของเซลล์ที่เกิดขึ้นจากสารอนุมูลอิสระ อันเป็นต้นสายปลายเหตุก่อโรคต่างๆได้แก่ โรคมะเร็ง โรคเส้นโลหิต ฯลฯ
ประโยชน์ต่อร่างกาย
สารสำคัญต่างๆ ที่เจอในบักวีตทำให้มั่นใจว่าบักวีต อาจดีต่อร่างกายด้านต่างๆ รวมทั้งอาจมีคุณภาพคุ้มครองปกป้องการเกิดโรคอะไรบางอย่างได้ ก็เลยมีการค้นคว้าเกี่ยวกับประโยชน์ซึ่งมาจากบักวีตในทางมุมต่างๆไว้ ดังต่อไปนี้
ลดปริมาณระดับน้ำตาลภายในเลือด
ถึงแม้บักวีตจะมีคาร์โบไฮเดรตเป็นองค์ประกอบหลัก แต่ว่าก็เป็นคาร์โบไฮเดรตประเภทซึ่งสามารถย่อยได้ง่าย และไม่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงมากขึ้นมากสักเท่าไรนัก นอกนั้น ยังเชื่อเพราะสาร D-Chiro Inositol ในบักวีตอาจมีคุณลักษณะช่วยลดน้ำตาลในเลือดได้ ซึ่งบางทีอาจดีต่อคนที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานด้วย
โดยมีงานค้นคว้าวิจัยหนึ่งได้เล่าเรียนคุณลักษณะของบักวีตสำหรับการรักษาสภาวะน้ำตาลในเลือดสูง จากการเก็บเนื้อเก็บตัวอย่างเลือดของอาสาสมัครที่กินบักวีตเป็นของกินหลักปริมาณ 961 ราย พบว่าบักวีตอาจช่วยคุ้มครองภาวการณ์น้ำตาลในเลือดสูงได้ ซึ่งสอดคล้องกับอีกงานศึกษาค้นคว้าและการวิจัยหนึ่งที่เรียนรู้คุณลักษณะของบักวีตในด้านนี้เช่นเดียวกัน โดยให้ตัวทดลองที่เป็นโรคโรคเบาหวานกินบัควีตสกัดเข้มข้นแล้ววัดระดับน้ำตาลในเลือดภายหลังผ่านไป 90 และก็ 120 นาที ผลที่ตามมาระดับน้ำตาลในเลือดของหนูน้อยลงกว่า 12-19 เปอร์เซ็นต์
ลดคอเลสเตอรอล
สภาวะคอเลสเตอรอลในเลือดสูงบางทีอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อระบบหัวใจแล้วก็เส้นโลหิต คนไข้ที่กำลังพบเจอสภาวะนี้ก็เลยอาจมีการเสี่ยงต่อโรคหัวใจสูง ซึ่งในตอนนี้มีงานศึกษาค้นคว้าวิจัยจำนวนมากเรียนคุณลักษณะของบักวีตในด้านนี้ พบว่าการกินบักวีตอาจช่วยลดระดับคอเลสตอคอยล รวมทั้งบางทีอาจช่วยลดการเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจได้ด้วย แม้กระนั้น ลูกค้าก็ควรจะกินบักวีตด้วยความรอบคอบเสมอ เพื่อเลี่ยงผลกระทบที่บางทีอาจเกิดขึ้นได้
ข้อควรระวัง
โดยธรรมดาการรับประทานบักวีต ในจำนวนที่พอดีนั้นไม่ทำให้เกิดผลเสียหรือเกิดอันตรายต่อสถาพทางร่างกาย แม้กระนั้นแม้กินบักวีตจำนวนมากต่อเนื่องกันเสมอๆ บางทีอาจกำเนิดอาการแพ้บักวีตได้ ซึ่งทำให้ผิวหนังมีผื่นแดง อวัยวะส่วนต่างๆกำเนิดอาการบวม หรือระบบที่ทำหน้าที่สำหรับการย่อยอาหารปฏิบัติงานแตกต่างจากปกติ ฉะนั้น ถ้าหากเจออาการร้ายแรงข้างหลังกินบักวีต ควรจะรีบไปพบหมอในทันที เนื่องจากบางทีอาจเกิดอาการช็อก ซึ่งทำให้เป็นอันตรายต่อชีวิตได้