ปัญหาการดื้อยาปฏิชีวนะกลายเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อสุขภาพมนุษย์แบคทีเรียแกรมบวก โดยเฉพาะเชื้อดื้อยาหลายชนิด กลายเป็นสาเหตุของการติดเชื้อที่รักษาได้ยาก ส่งผลให้ผู้ป่วยเสียชีวิตจำนวนมาก เทคโนโลยีทางการแพทย์ใหม่ๆกำลังถูกพัฒนาเพื่อต่อสู้กับปัญหาการดื้อยาปฏิชีวนะ โดยมุ่งเน้นไปที่ยาปฏิชีวนะชนิดใหม่ที่มีประสิทธิภาพต่อแบคทีเรียแกรมบวก
กลไกการออกฤทธิ์ของยาปฏิชีวนะชนิดใหม่:
ยาปฏิชีวนะชนิดยับยั้งการสังเคราะห์ผนังเซลล์: ยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียโดยขัดขวางการสร้างผนังเซลล์ ตัวอย่างยาปฏิชีวนะกลุ่มนี้ เช่น vancomycin, daptomycin
ยาปฏิชีวนะชนิดรบกวนการสังเคราะห์โปรตีน: ยับยั้งการสร้างโปรตีนที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ตัวอย่างยาปฏิชีวนะกลุ่มนี้ เช่น linezolid, tedizolid
ยาปฏิชีวนะชนิดยับยั้งการทำงานของ DNA: ยับยั้งการจำลอง DNA ของแบคทีเรีย ตัวอย่างยาปฏิชีวนะกลุ่มนี้ เช่น oritavancin, dalbavancin
ตัวอย่างยาปฏิชีวนะชนิดใหม่สำหรับแบคทีเรียแกรมบวก:
Oritavancin: ยาปฏิชีวนะกลุ่ม lipoglycopeptide ออกฤทธิ์ยับยั้งการสังเคราะห์ผนังเซลล์ มีประสิทธิภาพต่อเชื้อ MRSA และ VRE
Dalbavancin: ยาปฏิชีวนะกลุ่ม lipoglycopeptide ออกฤทธิ์ยับยั้งการสังเคราะห์ผนังเซลล์ มีประสิทธิภาพต่อเชื้อ MRSA และ VRE
Lefamulin: ยาปฏิชีวนะกลุ่ม macrolide ออกฤทธิ์ยับยั้งการสังเคราะห์โปรตีน มีประสิทธิภาพต่อเชื้อ Staphylococcus aureus Streptococcus pneumoniae
Garenoxacin: ยาปฏิชีวนะกลุ่ม fluoroquinolone ออกฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของ DNA มีประสิทธิภาพต่อเชื้อ Staphylococcus aureus Streptococcus pneumoniae
ข้อดีของยาปฏิชีวนะชนิดใหม่: มีประสิทธิภาพต่อแบคทีเรียแกรมบวกดื้อยาหลายชนิด
มีผลข้างเคียงน้อย
ออกฤทธิ์ได้อย่างรวดเร็ว
สามารถรักษาการติดเชื้อที่รุนแรงได้
อย่างไรก็ตาม ยาปฏิชีวนะชนิดใหม่เหล่านี้ยังมีราคาแพง การเข้าถึงยาจึงยังจำกัด จำเป็นต้องมีการพัฒนาระบบการรักษาที่มีประสิทธิภาพ ราคาประหยัด และเข้าถึงได้ง่าย เพื่อต่อสู้กับปัญหาการดื้อยาปฏิชีวนะได้อย่างยั่งยืน