การออกแบบบ้านที่ดีแล้วก็มีคุณภาพจำเป็นต้องทำยังไง ไตร่ตรองอะไรบ้าง คนไหนอยากทราบตามมามองการออกแบบบ้านเองให้เป๊ะปังแบบไม่ขอคืนดีมือโปรกันได้เลย
สำหรับผู้ที่ไม่เคยมีประสบการณ์การออกแบบบ้านและก็แบบแปลนบ้านนับว่าเป็นเรื่องยากมากมาย เพราะว่านอกเหนือจากจึงควรนึกถึงความงามและก็ฟังก์ชันการใช้แรงงานแล้ว ยังจะต้องพิจารณาถึงค่าใช้สอยที่น่าปวดศรีษะอีกต่างหาก ด้วยเหตุดังกล่าวสำหรับผู้ที่กำลังจะวางแบบบ้านด้วยตัวเองและก็กำลังมองหาแรงดลใจอยู่ วันนี้กระปุกดอทคอมเก็บรวบรวมกลเม็ดการออกแบบบ้านอย่างมีคุณภาพมาฝาก รับประกันทราบไว้ช่วยทำให้เรื่องยากเปลี่ยนเป็นเรื่องง่ายมากยิ่งขึ้นได้ แถมจำเป็นต้องได้บ้านที่สวยสดงดงามตรงตามใจแน่ๆ
1.ให้เหมาะกับสมาชิก
ไม่ใช่ว่าทุกครอบครัวต้องการบ้านขนาดใหญ่ และไม่ใช่ว่าทุกครอบครัวจะเหมาะสมกับบ้านขนาดเล็ก เพราะฉะนั้นสิ่งจำเป็นที่สุดก่อนที่จะวางแบบบ้านเป็นการเลือกจำพวกที่อยู่ที่อาศัยให้เหมาะสมกับปริมาณสมาชิกในครอบครัว ดังเช่นว่า บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ หรือคอนโด โดยทดลองพิเคราะห์มองว่า ควรพื้นที่มากแค่ไหนถึงจะเข้ากับไลฟ์สไตล์ของทุกคน เพื่อนำไปคำนวนว่ากล่าวด้านในที่พักที่อาศัยของพวกเราควรจะมีห้องนอนมากแค่ไหน ห้องสุขาเยอะแค่ไหน แล้วก็เพิ่มส่วนไหนบ้าง
2.ความสำคัญกับเลเอาต์
หลักจากเลือกชนิดที่อาศัยได้แล้ว ควรจะให้ความเอาใจใส่กับแบบแปลนบ้านก่อนจะมีการตกแต่ง เพราะเหตุว่าถึงแม้บ้านจะงาม แม้กระนั้นถ้าไม่ตอบปัญหาการใช้แรงงานในชีวิตประจำวันก็ไม่มีประโยชน์ โดยเหตุนั้นผู้ใดกันแน่ที่กำลังจะดีไซน์บ้านแล้วละก็ ควรจะวางแบบแบบแปลนบ้านให้เสร็จก่อน โดยตรึกตรองว่าจะวางตำแหน่งแต่ละห้องเช่นไร ระหว่างพื้นที่ศูนย์กลางแล้วก็พื้นที่ส่วนตัว อยู่ชิดกันได้หรือแยกคนละโซนไปเลนดีมากกว่า เพื่อคุ้มครองป้องกันเสียงดังรบกวน หรือห้องรับแขก ห้องสำหรับรับประทานอาหาร ครัว กันฝาผนังดีไหม หรือวางแบบแบบ Open Plan ดีมากกว่า
3.ตกแต่ง
ภายหลังเลือกแบบแปลนบ้านที่อยากได้ได้แล้ว ก็ถึงขนาดตอนของการตกแต่ง ซึ่งควรที่จะทำการเลือกให้ใกล้เคียงไปกับพื้นที่ ขนาด และก็การจัดวางแบบแปลนบ้าน เป็นต้นว่า ถ้าเกิดในบ้านค่อนข้างจะเล็ก ควรที่จะเลือกการตกแต่งสไตล์โมเดิร์น เนื่องจากอีกทั้งโทนสีแล้วก็การออกแบบในสไตล์นี้จะช่วยทำให้ในบ้านมองกว้างใหญ่ สว่าง บรรรยากาศสดใส มากยิ่งกว่าสไตล์เทรดิชันนอลหรือบ้านแบบเริ่มแรก ที่ชอบใช้ฝาผนังกันห้องแบ่งแยกพื้นที่ ซึ่งจะมีผลให้บ้านที่มีขนาดเล็กอยู่แล้วยิ่งมองแคบลง
4.หาข้อดี-ข้อเสีย
เมื่อได้แบบบ้านที่ประทับใจแล้ว ก็อย่าพึ่งจะลงมือในทันที ทดลองพิจารณาถึงจุดเด่น-ข้อบกพร่องของแต่ละจุดสักรอบ ดังเช่นว่า ถ้าเป็นคนถูกใจหน้าต่างบานใหญ่ๆเนื่องจากว่าต้องการให้บ้านสว่างและก็เห็นทิวทัศน์ข้างนอกแล้ว อย่าลืมดูด้วยว่าตรงกับด้านแดดหรือเปล่า แดดเข้าตอนไหน ไม่งั้นก็จะมีผลให้บ้านร้อน บางทีอาจจะจะต้องชิดกันสาดหรือเปลี่ยนผ้าม่านแบบกันความร้อน
5.ตั้งงบประมาณ
อีกหนึ่งปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการตกแต่งบ้านที่ผู้คนจำนวนมากชอบพบก็คือ จับจ่ายซื้อของเข้าบ้านเพลิดเพลินกระทั่งเกินความจำเป็นงบประมาณ เพราะว่าอยากได้ไปหมดทุกๆสิ่งทุกๆอย่าง ยิ่งหาก็ยิ่งพบของที่ชื่นชอบ ดังนั้นควรจะตั้งงบที่จะใช้ให้เด่นชัดและก็มานะควบคุมให้อยู่ในวงเงินที่ระบุเอาไว้ คุ้มครองป้องกันไม่ให้งบประมาณแย่ลงกว่าเดิมหรือเกินได้บางส่วนแม้กระนั้นไม่มากเกินไป ที่สำคัญอย่าลืมทำบัญชีเอาไว้ด้วย จะได้ทราบว่าใช้จ่ายกับอะไรไปบ้าง แล้วก็สามารถลดที่ไหนช่วยอดออมได้อีก