แฟรคชันนัล เลเซอร์เป็นเทคโนโลยีความงามที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในการฟื้นฟูสภาพผิว โดยใช้หลักการ Fractional Photothermolysis ซึ่งเป็นการยิงลำแสงเลเซอร์ขนาดเล็กจำนวนมากเป็นจุดๆ ลงสู่ผิวหนังชั้นในโดยจะเว้นเนื้อเยื่อรอบข้างให้ไม่ได้รับผลกระทบ เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนและเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมาทดแทน ทำให้ผิวที่เสียหายได้รับการฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว
เลเซอร์แบบ Fractionalเป็นประเภทของการรักษาด้วยเลเซอร์ที่กำหนดเป้าหมายไปที่ผิวหนังในส่วนที่เป็นจุลภาค ซึ่งแตกต่างจากการรักษาด้วยเลเซอร์แบบดั้งเดิมที่รักษาบริเวณผิวหนังขนาดใหญ่ เลเซอร์แบบ Fractional จะสร้างโซนความร้อนเล็กๆ หลายพันโซนโดยไม่กระทบต่อเนื้อเยื่อโดยรอบ กระบวนการนี้ช่วยให้ผิวหนังรักษาตัวได้เร็วขึ้นและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนตามธรรมชาติ
เลเซอร์แบบเศษส่วนมีอยู่ 2 ประเภทหลักๆ:
เลเซอร์แบบเศษส่วนที่ทำลายเนื้อเยื่อ (เช่น CO2, Er :YAG ): เลเซอร์ประเภทนี้จะขจัดชั้นผิวหนังชั้นนอกออก และมีประสิทธิผลในการรักษาริ้วรอยลึก รอยแผลเป็นจากสิว และปัญหาผิวที่รุนแรงมากขึ้น
เลเซอร์แบบเศษส่วนที่ไม่ทำให้เกิดการระคายเคือง (เช่น Fraxel): เลเซอร์ประเภทนี้จะให้ความร้อนกับเนื้อเยื่อผิวหนังด้านล่างโดยไม่ทำลายชั้นผิวภายนอก จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการรักษาที่มีจุดบกพร่องเล็กน้อยถึงปานกลาง โดยมีเวลาพักฟื้นน้อย
หลักการทำงาน:
เลเซอร์จะยิงลำแสงเป็นจุดเล็กๆ ทะลุผ่านผิวชั้นบน (epidermis) ลงไปถึงผิวชั้นล่าง (dermis)
ความร้อนจากเลเซอร์จะสร้าง Microthermal Treatment Zones (MTZs) ซึ่งเป็นช่องว่างเล็กๆ ใต้ผิว
ร่างกายจะตอบสนองด้วยการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ เพื่อซ่อมแซมและฟื้นฟูผิว
เซลล์ผิวเก่าที่เสียหายจะถูกผลัดออกไป และถูกแทนที่ด้วยเซลล์ผิวใหม่ที่แข็งแรงและเรียบเนียนกว่า
ประเภทของ Fractional Laser ที่พบได้บ่อย:
Fractional CO2 Laser: เป็นเลเซอร์ชนิด Ablative (มีการทำลายผิวชั้นบน) ที่ให้ผลลัพธ์ชัดเจนในการปรับผิวหน้าให้เรียบ ลดหลุมสิว และฟื้นฟูผิวให้ดูแข็งแรงและอ่อนเยาว์ เหมาะกับผู้ที่ต้องการเปลี่ยนสภาพผิวอย่างจริงจังในระยะยาว
Fractional Non-Ablative Laser (เช่น Fraxel): เป็นเลเซอร์ที่ไม่ทำลายผิวชั้นบน ทำให้ไม่มีแผลและมีระยะเวลาพักฟื้นน้อยกว่า เหมาะกับการรักษาปัญหาผิวที่ไม่รุนแรงมากนัก เช่น ลดริ้วรอยเล็กๆ, ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ, กระตุ้นคอลลาเจน
ประโยชน์ของ Fractional Laser:
รักษาหลุมสิว แผลเป็น: ช่วยกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ ทำให้หลุมสิวและแผลเป็นดูตื้นขึ้น
ลดริ้วรอย: ช่วยให้ริ้วรอยตื้นๆ รอบดวงตาและใบหน้าดูจางลง
กระชับรูขุมขน: ทำให้รูขุมขนที่กว้างดูเล็กลง ผิวดูเรียบเนียนขึ้น
ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ: ลดเลือนฝ้า กระ จุดด่างดำ และความหมองคล้ำจากแสงแดด
ฟื้นฟูผิว: ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าที่เสียหายออกไป และกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์และสดใสขึ้น
รักษารอยแตกลาย: สามารถช่วยลดรอยแตกลายตามส่วนต่างๆ ของร่างกายได้
การเตรียมตัวก่อนทำ Fractional Laser:
ปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินสภาพผิวและวางแผนการรักษา
หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดจัด และทาครีมกันแดดเป็นประจำ
งดการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของวิตามิน A, C หรือสารกลุ่ม AHA/BHA ที่อาจระคายเคืองผิว อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ก่อนทำ
งดการขัดผิว นวดหน้า หรือทำทรีตเมนต์ที่รุนแรงก่อนทำเลเซอร์
แจ้งแพทย์หากกำลังรับประทานยาบางชนิด เช่น ยาละลายลิ่มเลือด หรือยาต้านการอักเสบ
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น:
รอยแดงและบวม: เป็นอาการปกติหลังทำเลเซอร์ ซึ่งจะค่อยๆ จางหายไปภายใน 3-7 วัน (ขึ้นอยู่กับชนิดของเลเซอร์และความรุนแรงของการรักษา)
ผิวแห้ง ตึง: อาจรู้สึกผิวแห้งหรือตึงได้ ควรทามอยเจอร์ไรเซอร์บ่อยๆ
มีสะเก็ด: โดยเฉพาะ Fractional CO2 Laser อาจมีสะเก็ดเล็กๆ เกิดขึ้น ซึ่งจะหลุดลอกออกเองภายใน 7-14 วัน ห้ามแกะเกาโดยเด็ดขาด
รอยดำหลังการอักเสบ (Post-inflammatory Hyperpigmentation – PIH): อาจเกิดขึ้นได้ในบางราย โดยเฉพาะผู้ที่มีสีผิวเข้ม หรือผู้ที่ไม่ดูแลผิวหลังทำอย่างถูกต้อง ซึ่งมักจะจางหายไปได้เอง แต่ควรปรึกษาแพทย์หากรอยดำคงอยู่นาน
การดูแลหลังทำ Fractional Laser:
ทำความสะอาดผิวอย่างอ่อนโยน: งดการล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าใน 24-48 ชั่วโมงแรก (ตามคำแนะนำของแพทย์) หรือใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่อ่อนโยน
ทามอยเจอร์ไรเซอร์และครีมกันแดด: ทามอยเจอร์ไรเซอร์เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว และทาครีมกันแดดที่มี SPF 30+ ขึ้นไปเป็นประจำ และหลีกเลี่ยงแสงแดดจัดอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์
ห้ามแกะเกา: ปล่อยให้สะเก็ดหลุดลอกเองตามธรรมชาติ
งดใช้ผลิตภัณฑ์รุนแรง: งดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรด วิตามิน A, C หรือสารที่อาจระคายเคืองผิว
พบแพทย์ตามนัด: เพื่อติดตามผลการรักษาและรับคำแนะนำเพิ่มเติม
โดยทั่วไป การทำ Fractional Laser จะต้องทำต่อเนื่อง 3-5 ครั้ง โดยเว้นระยะห่างประมาณ 2-4 สัปดาห์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและคงทน
Fractional Laser เป็นเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาผิวหลากหลายประเภท แต่ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจทำ เพื่อให้การรักษาเหมาะสมกับสภาพผิวและความต้องการของแต่ละบุคคลมากที่สุด