การถ่ายภาพรังสีร่วมกับการส่องกล้องเป็นเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ผสานเทคนิคการถ่ายภาพรังสี เช่น เอกซเรย์ หรือฟลูออโรสโคปี เข้ากับการส่องกล้อง เพื่อให้แพทย์สามารถมองเห็นอวัยวะภายในร่างกายได้โดยตรงและทำการรักษาหรือวินิจฉัยโรคได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น เทคนิคที่มีประสิทธิภาพที่ช่วยให้แพทย์สามารถมองเห็นภายในร่างกายมนุษย์ได้แบบเรียลไทม์ด้วยความแม่นยำและความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น
หลักการทำงาน:
การส่องกล้อง: แพทย์จะสอดท่อขนาดเล็กที่มีกล้องและแหล่งกำเนิดแสงติดอยู่บริเวณส่วนปลายเข้าไปในร่างกายผ่านทางช่องเปิดตามธรรมชาติ (เช่น ปาก ทวารหนัก) หรือผ่านแผลผ่าตัดเล็กๆ
การถ่ายภาพรังสี: ในขณะที่ส่องกล้อง แพทย์จะใช้เครื่องเอกซเรย์หรือฟลูออโรสโคปีเพื่อสร้างภาพแบบเรียลไทม์ของอวัยวะภายใน ทำให้เห็นตำแหน่งของกล้องและเครื่องมือที่ใช้ในการรักษาได้อย่างชัดเจน
ประโยชน์ของการถ่ายภาพรังสีร่วมกับการส่องกล้อง:
เพิ่มความแม่นยำในการวินิจฉัย: ภาพรังสีช่วยให้แพทย์เห็นโครงสร้างภายในและตำแหน่งของรอยโรคได้อย่างชัดเจน ทำให้การวินิจฉัยแม่นยำยิ่งขึ้น
นำทางในการรักษา: ภาพรังสีแบบเรียลไทม์ช่วยนำทางให้แพทย์สามารถสอดใส่เครื่องมือไปยังตำแหน่งที่ต้องการรักษาได้อย่างแม่นยำ ลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อน
ลดขนาดแผลผ่าตัด: การส่องกล้องร่วมกับการถ่ายภาพรังสีช่วยให้สามารถทำการรักษาผ่านแผลขนาดเล็กได้ ทำให้ผู้ป่วยฟื้นตัวได้เร็วขึ้นและมีรอยแผลเป็นน้อยลง
สามารถทำการรักษาที่ซับซ้อนได้: เทคนิคนี้ช่วยให้แพทย์สามารถเข้าถึงและรักษาโรคในบริเวณที่เข้าถึงยากด้วยการผ่าตัดแบบเปิด
ตัวอย่างการประยุกต์ใช้:
การส่องกล้องตรวจทางเดินอาหารร่วมกับฟลูออโรสโคปี: ใช้ในการวินิจฉัยและรักษาโรคของหลอดอาหาร กระเพาะอาหาร และลำไส้ เช่น การตัดติ่งเนื้อ การขยายหลอดอาหารที่ตีบแคบ
การส่องกล้องตรวจท่อทางเดินน้ำดีและตับอ่อนร่วมกับการถ่ายภาพรังสี (ERCP): ใช้ในการวินิจฉัยและรักษานิ่วในท่อน้ำดี ท่อตับอ่อนตีบตัน หรือเนื้องอกในบริเวณดังกล่าว
การส่องกล้องหลอดลมร่วมกับการถ่ายภาพรังสี: ใช้ในการวินิจฉัยและรักษาโรคของปอดและทางเดินหายใจ เช่น การตัดชิ้นเนื้อ การใส่ขดลวดค้ำยันหลอดลม
การส่องกล้องตรวจระบบทางเดินปัสสาวะร่วมกับการถ่ายภาพรังสี: ใช้ในการวินิจฉัยและรักษานิ่วในไต ท่อไต หรือกระเพาะปัสสาวะ การตัดเนื้องอก
การถ่ายภาพรังสีร่วมกับการส่องกล้องจึงเป็นเทคโนโลยีที่มีบทบาทสำคัญในการวินิจฉัยและรักษาโรคต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้นสำหรับผู้ป่วย